head

Photobucket

เกี่ยวกับฉัน

Hallo

12/08/53 สุขสันต์วันแม่ อย่าลืมบอกรักแม่นะ ..อัพเดท Blogแล้วเนื้อหาวันนี้ เกี่ยวกับสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า " แม่ "..||10/08/53 บทความแรกเป็นบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่ชวนมึนหัวเรื่อง "INCEPTION" จิตพิฆาตโลก

Welcome

Photobucket

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

INCEPTION จิตพิฆาตโลก



INCEPTION คือ การเจาะเข้าไปในจิตใจส่วนที่ลึกที่สุดใต้จิตสำนึกเพื่อล้วงความลับ และฝังแนวคิดกับไอเดียใหม่เข้าไป ให้คนๆนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด มันคือการกระทำที่เป็นไปได้ยาก แล้วความคิดที่ถูกปลูกฝังเข้าไปใหม่นั้นจะคงอยู่ตลอดไปจนกว่าสิ้นชีวิต
เนื้อเรื่องคร่าวๆก็มีอยู่ว่า คอบป์กับกลุ่มของเขาสามารถช่วงชิงความลับของเป้าหมายผ่านความฝันได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จิตใจเปราะบางและอ่อนไหวสุดๆต่อการเจาะล้วง เริ่มจากสร้างโลกแห่งความฝันขึ้นผ่านจินตนาการ ไม่มีการอ้างอิงจากความทรงจำแต่อยากใด ที่เหลือก็ปล่อยให้เป้าหมายเติมเต็มรายละเอียดส่วนที่เหลือทั้งหมด ส่งผลให้เป้าหมายเชื่อว่าโลกแห่งความฝันที่ตนอยู่คือโลกแห่งความเป็นจริง จากนั้นจึงได้ฤกษ์เริ่มลงมือในขั้นตอนการจัดฉากสร้างสถานการณ์โจรกรรมอย่างแนบเนียน รวมถึงการสร้างฝันซ้อนฝัน กระทั่ง ลูกค้าคนหนึ่งต้องการปลูกฝังความคิดใหม่แก่คนๆหนึ่งผู้เป็นทายาทของกลุ่มมหาอำนาจใหม่ของโลก ฉะนั้นชะตากรรมจึงตกเป็นของคอบป์ที่ต้องใช้วิธีการ INCEPTION ที่เสี่ยงมากต่อศัตรูในความฝันของคอบป์และแทบจะเป็นไปไม่ได้ มันเป็นการสร้างฝันซ้อนฝันซ้อนฝันน




ชั้นแรก: “We create the world of a dream.”






ฉากนี้ได้อารมณ์ The Dark Knight เป็นอย่างมาก มีทั้งการไล่ล่าทางรถยนต์ การดวลปืนแบบเหนาะๆแต่เร้าใจแล้วแอบฮาเล็กๆ บวกกับแผนการอันแนบเนียนดั่งวิญญาณโจ๊กเกอร์ลอยมาสิง ตัวหนังช่วงนี้จึงมันส์แบบเดิมๆตามสไตล์การกำกับของโนแลนด์ ทำให้ฝันชั้นแรกนี้ไม่น่าติดตามเท่าไหร่นักในช่วงท้าย ยังดีที่มีเนื้อเรื่องกับจุดหักเห ความเป็นมาของตัวเอกเราเพิ่มเติมมาคอยค้ำจุนไว้






ชั้นสอง: "You bring the subject into that dream, and they fill it with their secrets."




นี่สิเจ๋งจริง!! ตัวละครที่ชื่อว่า อาเธอร์ (แสดงโดย Joseph Gordon-Levitt) ผู้ช่วยพระเอกเราในการปฏิบัติการครั้งนี้ แย่งซีนไปเต็มๆ โดยเฉพาะฉากภาวะไร้แรงโน้มถ่วงเพื่อปกป้องเหล่าผองเพื่อนที่กำลังหลับใน ด้วยความแปลกใหม่ของฉากต่อสู้ อารมณ์ ดนตรีประกอบ ฝันชั้นนี้จึงถือว่าเป็นส่วนที่เยี่ยมที่สุดในเรื่อง ตามความเห็นของผม อีกทั้งผมยังชอบฉาก บันได พาราด็อกซ์ มากๆ (แต่กลับจำความหมายมันไม่ค่อยได้)


ชั้นที่สาม: “Then you break in and steal it.”


จากโรงแรม ถนนหนทาง สู่หุบเขาแห่งหิมะ ที่ซึ่งเก็บงำความลับ ความรู้สึกของฟิชเชอร์ผู้เป็นเป้าหมายเอาไว้ (Cillian Murphy) ในช่วงนี้จะได้พบกันความเหนือชั้นของอีกขั้นฉากไล่ล่า มุมมองแอ็คชั่นอีกแบบของโนแลนด์ที่สร้างสรรค์ได้สนุก กวน ลุ้นระทึก ตลอดเวลา คลอกับดนตรีใหม่ของ Han Zimmers ขาประจำทำให้แบบว่า “ว้าวว!! สุดยอด!!” ไม่แพ้พี่ Batman ในฉาก Batpod เลย


ช่วงนี้แหละคือการทำ INCEPTION ที่แท้จริง จะสำเร็จหรือไม่ต้องรอติดตามต่อในโรงภาพยนตร์ (แอบโฆษณาเปล่านี่)




ห้วงนรก: “They Call INCEPTION”


เอาล่ะ…หลังจากสนุกสนาน อินไปกับฉากแอ็คชั่นผ่อนคลายกันมาเกือบทั้งเรื่องแล้ว ฝันชั้นนี้ต้องใช้ความคิดและตั้งใจสูงส่ง เพ่งเล็งทุกรายละเอียดอย่างมากถึงมากที่สุด ไม่งั้นจะงองูสองตัวมาเจอกันแน่ๆ ซึ่งขอยอมรับว่าขณะที่กำลังเขียนบทวิจารณ์อยู่นี้ก็ยังคงมึน และงงไม่หายสำหรับฉากบางฉาก




ชั้นนี้เป็นโลกแห่งความว่างเปล่า เวิ้งว้างเกินพรรณนา เหมือนคนที่ป่วยเป็นโรคโคม่า ถูกย้ายมาอยู่ที่นี่ รอมันถูกดึงกลับออกไปยังโลกแห่งความเป็นจริง ปริศนาทั้งหลายจะถูกเฉลยในชั้นนี้ เราจะสัมผัสได้ถึงรายละเอียดต่างๆอันแสนชาญฉลาดของบทบาทสุดท้ายของเหล่าตัวละครเรื่องนี้แบบเต็มๆ


“ปรสิตที่เติบโตเร็วที่สุดคืออะไร?...ไอเดีย ทำลายยากและแพร่กระจายง่าย”


มนุษย์เราทุกคนล้วนต้องการโทเทม บางครั้งคนเราก็ไม่สามารถแยกแยะความจริงกับความฝันได้ เพราะความฝันสามารถรู้สึกได้เหมือนความจริงเวลาเราเข้าฝัน เพียงแต่เมื่อเราตื่นขึ้นมาจึงรู้ว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่น่าประหลาด
ช่วงเวลาหนึ่งคนเราจะมักจมอยู่กับความฝันที่ไม่เป็นจริงอยู่เสมอ จนลืมความจริงในสิ่งที่ตัวเองเป็น ฉะนั้นหากเราไม่รู้จักแยกแยะความเป็นจริงออกจากความฝันแล้ว ซึ่งไม่ว่าฝันนั้นมันจะทำให้เรามีความสุขมากมายแค่ไหน เราก็ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป แต่ใช่ว่าเราจะละทิ้งความฝันของตนไปจนหมด ยังไงซะความฝันก็คือส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจ อีกทั้งแรงบันดาลใจไม่สามารถปลอมแปลงได้เหมือนความฝัน


“อย่าสร้างมันจากความทรงจำ จงสร้างผ่านจินตนาการของสถานที่ใหม่เสมอ"




INCEPTION คือ 1 ในหนังที่คุณจะเสียดายถ้าไม่ได้ดูก่อนตาย ตัวหนังไม่ซับซ้อนมากเท่ากับผลงานเก่าๆของโนแลนด์อย่าง Memento, The Prestige เป็นต้น อีกทั้งยังมีความบันเทิง จุดหักมุม ปริศนากระจายอยู่มากกว่าด้วย หากคุณตั้งใจเก็บทุกรายละเอียดก็จะไม่งงงวยอะไรมาก เพราะตัวหนังสื่อออกมาให้เห็นแบบโล่งโจ้งไม่ต้องคิดอะไรหลายตลบ ประกอบกับฉากแอ็คชั่นอันแสนระทึก การแสดงอันแสนเพอร์เฟ็คเหมาะสมบทบาท บวกกับดนตรีประกอบที่คลออารมณ์ได้อย่างมั่นคง นี่คือความบันเทิงชั้นยอด สามารถพูดกะรันตีได้เต็มปากว่า เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งในปีนี้ ถ้าพูดถึงข้อด้อยก็คงจะมีอยู่อย่างเดียวคือ การดำเนินเรื่องในช่วงแรกที่ยังดูเร็วเกินไป




credit : TheJoker

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น